การประชุมรัสเซีย-แอฟริกาซัมมิทครั้งที่สอง ที่จัดขึ้นในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเสร็จสิ้นลงแล้วเมื่อวานนี้ ท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่น แม้ว่าจำนวนของผู้นำประเทศและผู้แทนของชาติแอฟริกาจะมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้
โดย วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวย้ำในช่วงปิดประชุมว่า ความสนใจของรัสเซียที่มีต่อทวีปแอฟริกานั้นกำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถ้อยแถลงตอกย้ำถึงความพยายามแสวงหาพัมธมิตรใหม่ หลังรัสเซียถูกโดดเดี่ยวจากหลายชาติ นับตั้งแต่เปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022
รัสเซียรุกหนัก! เปิดฉากโจมตีทางอากาศชุดใหญ่ใส่ยูเครน
ประณามรัสเซีย โจมตีคลังเก็บธัญพืชยูเครน หวั่นกระทบปากท้องชาติอื่น
รัสเซียโจมตีโรงเก็บธัญพืชยูเครน เสียหาย 6 หมื่นตัน
อีกความน่าสนใจของถ้อยแถลงก็คือ ประธานาธิบดีรัสเซียระบุว่า ตัวเขาและผู้นำจากหลายชาติในแอฟริกาเห็นพ้องต้องกันว่า ทั้งรัสเซียและชาติแอฟริกาจะร่วมกันจัดระเบียบโลกใหม่ โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างความยุติธรรมและประชาธิปไตย เนื่องจากทุกวันนี้โลกมีหลายขั้วอำนาจ รวมถึงรัสเซียจะต่อต้านการใช้มาตรการคว่ำบาตรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ข้อนี้มีนัยยะถึงชาติตะวันตก เนื่องจากปัจจุบันรัสเซียยังคงถูกหลายชาติคว่ำบาตรทางการค้า
ส่วนในประเด็นสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ดำเนินมานานกว่าปีครึ่งนั้น มีเสียงจากหลายชาติในแอฟริกาเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหันหน้าเจรจา เนื่องจากสงครามได้ทำลายการเติบโตทางเศรษฐกิจของประชาคมโลก ซึ่งผู้นำรัสเซียระบุว่า เป็นฝ่ายยูเครนและชาติตะวันตกต่างหากที่ปฏิเสธการเจรจา
ส่วนในวันพฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม วันแรกของการประชุมรัสเซีย-แอฟริกาซัมมิทครั้งที่สอง ผู้นำรัสเซียเสนอความช่วยเหลือด้านความมั่นคงทางอาหารให้กับบางประเทศ โดยประเทศที่จะได้รับธัญพืชฟรีน้ำหนัก 25,000-50,000 ตันได้แก่ บูร์กินาฟาโซ ซิมบับเว มาลี โซมาเลีย สาธารณรัฐแอฟริกากลาง และเอริเทรีย โดยรัสเซียจะส่งมอบให้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
โฟสแต็ง อาร์ก็องฌ์ ตัวเดรา ประธานาธิบดีสาธารณรัฐแอฟริกากลาง และพลเอกอัสซิมี โกยตา ผู้นำมาลี กล่าวขอบคุณความช่วยเหลือจากรัสเซีย พร้อมระบุว่า นอกเหนือจากความช่วยเหลือด้านธัญพืชแล้ว การสนับสนุนด้านความมั่นคงจากรัสเซียก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน
อย่างไรก็ตามมีเสียงเตือนจากซีริล รามาโฟซา ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ย้ำว่า เป้าหมายของการประชุมครั้งนี้มีเพื่อหาหนทางในการสร้างสันติภาพ และยุติสงคราม รวมถึงหารือให้ข้อตกลงการค้าผ่านทางทะเลดำนั้นกลับมาอีกครั้ง ดังนั้นวาระสำคัญจึงไม่ใช่การมารับบริจาคธัญพืชจากรัสเซีย
นโยบายส่งออกธัญพืชฟรีให้ชาติแอฟริกาที่ต้องการความช่วยเหลือด้านอาหารนี้ รัสเซียประกาศมาตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังระงับการต่ออายุข้อตกลงการขนส่งธัญพืชผ่านทางทะเลดำคำพูดจาก สล็อต777
อย่างไรก็ตาม เป็นการระงับข้อตกลงของรัสเซียนี้เองที่ทำให้ยูเครนไม่สามารถส่งออกธัญพืชไปยังแอฟริกาได้ จนเกิดความกังวลด้านความมั่นคงทางอาหาร
ข้อตกลงการขนส่งธัญพืชในทะเลดำมีขึ้น เนื่องจากหลังรัสเซียรุกรานยูเครนเส้นทางการขนส่งสินค้าผ่านทะเลดำของยูเครนถูกปิด ทั้งสองฝ่ายจึงต้องสร้างข้อตกลงร่วมกันขึ้นเพื่อให้การขนส่งสินค้าของยูเครนยังดำเนินต่อได้ เนเพราะยูเครนเป็นตะกร้าขนมปังของยุโรป สมญานามนี้มาจากการที่ยูเครนส่งออกธัญพืชเลี้ยงชาวยุโรปและทวีปอื่นๆ อย่าง เอเชียและแอฟริกาด้วย
ภายใต้ข้อตกลงเรือสินค้าจะแล่นลงใต้ในเขตน่านน้ำสากลเพื่อออกไปยังทะเลมาร์มะราของตุรกี โดยบริเวณนี้จะมีจุดตรวจที่เจ้าหน้าที่ของรัสเซีย ตุรกี และสหประชาชาติทำงานร่วมกัน ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ข้อตกลงการขนส่งธัญพืชผ่านทะเลดำช่วยให้หลายประเทศยังคงนำเข้าธัญพืชได้ แม้จะมีสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย รวมถึงเส้นทางนี้ยังใช้ขนส่งปุ๋ยเพื่อการเกษตรด้วยเช่นกัน
จนกระทั่งเมื่อวันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา รัสเซียประกาศไม่ต่ออายุในข้อตกลงดังกล่าว จากความไม่พอใจต่อการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก รวมถึงยังอ้างว่า ธัญพืชจากยูเครนที่เดินทางไปถึงประเทศยากจนนั้นมีสัดส่วนน้อยมาก เพียงแค่ร้อยละ 4 เท่านั้น นำมาสู่ความกังวลด้านความมั่นคงทางอาหารและการประกาศมอบความช่วยเหลือด้านธัญพืชให้ชาติแอฟริกาล่าสุดระหว่างกาประชุมรัสเซีย-แอฟริกาซัมมิทครั้งที่สอง
ในวันเดียวกันที่องค์การสหประชาชาติมีการจัดประชุมร่วมกับโครงการอาหารโลกเพื่อหารือถึงปัญหานี้ รายงานจาก คาร์ล สเกา รองผู้อำนวยการโครงการอาหารโลกชี้ว่า หลังรัสเซียไม่ต่ออายุข้อตกลงการขนส่งธัญพืชผ่านทางทะเลดำ จนถึงตอนนี้รัสเซียยังไม่ได้เจรจากับทางโครงการอาหารโลกแต่อย่างใด ที่เป็นวาระ เนื่องจากทางโครงการอาหารโลกระบุว่า ธัญพืชจากยูเครนจำนวนหนึ่งส่งมาให้กับทางโครงการเพื่อกระจายต่อให้กับประเทศที่กำลังต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่าง อัฟกานิสถาน